เมื่อคุณคุ้นเคยกับภาษา HTML, CSS และ JavaScript แล้ว ต่อมาจะมาเพิ่มระดับทักษะของคุณด้วยการเรียนรู้ Frond-end libraries ที่เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรม
ซึ่งใน Front End Development Libraries Certification คุณจะได้เรียนรู้วิธีจัดรูปแบบเว็บไซต์ของคุณอย่างรวดเร็วด้วย Bootstrap และเรียนรู้วิธีเพิ่มตรรกะให้กับสไตล์ของ CSS รวมถึงการขยายรูปด้วย Sass
หลังจากนั้น คุณจะได้เรียนรู้ในการสร้างตะกร้าสินค้าและแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อเรียนรู้วิธีสร้างอย่าง Single Page Application (SPA) อันทรงพลังด้วย React และ Redux
Bootstrap เป็น Front-End framework ที่ใช้ในการออกแบบหน้าเว็บและแอปพลิเคชันที่มีการตอบสนองกับผู้ใช้ ซึ่งต้องใช้โมบายเฟิร์ส(Mobile-first)ในการพัฒนาเว็บไซต์ และรวมถึงรูปแบบและคลาส CSS ที่สร้างไว้ล่วงหน้า บวกกับฟังก์ชันการทำงานของ JavaScript บางอย่าง
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีสร้างเว็บไซต์ที่ตอบสนองด้วย Bootstrap และใช้คลาสที่รวมไว้เพื่อจัดรูปแบบปุ่ม รูปภาพ แบบฟอร์ม การนำทาง และองค์ประกอบทั่วไป ๆ
jQuery เป็นหนึ่งในไลบรารีของ JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก
ในปีค.ศ. 2006 เมื่อทำการเปิดตัว jQuery ทำให้เบราว์เซอร์หลักที่ใช้ JavaScript นั้นแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่ง jQuery ทำให้กระบวนการเขียน JavaScript ฝั่งไคลเอ็นต์ง่ายขึ้น และยังช่วยให้มั่นใจว่าโค้ดของคุณทำงานในลักษณะเดียวกันในทุกเบราว์เซอร์
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้ jQuery เพื่อทำการเลือก ลบ โคลน และแก้ไของค์ประกอบต่างๆ ในหน้าเว็บเพจ
Sass หรือ "Syntactically Awesome StyleSheets" เป็นส่วนขยายภาษาของ CSS ทำหน้าที่เพิ่มคุณสมบัติที่ไม่มีใน CSS พื้นฐาน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการดูแลและรักษาสไตล์ชีต (Stylesheet) สำหรับโปรเจคของคุณ
ในหลักสูตร Sass นี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีจัดเก็บข้อมูลในตัวแปร, nest CSS, สร้างสไตล์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วยมิกซ์อินต่างๆ, เพิ่มตรรกะและลูปให้เข้ากับสไตล์ของคุณ และอื่นๆ
React เป็นไลบรารีของ JavaScript ที่มีความยอดนิยมมาก ในการทำให้สร้างอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) ใช้ซ้ำได้และเป็นตัวขับเคลื่อน component สำหรับการสร้างหน้าเว็บหรือแอปพลิเคชัน
React นั้นเป็นการรวม HTML กับฟังก์ชันของ JavaScript เข้าด้วยกัน เป็นภาษามาร์กอัปของตัวเองที่เรียกว่า JSX นอกจากนี้ React ยังช่วยให้การจัดการการไหลของข้อมูลทั่วทั้งแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีสร้าง React components ต่างๆ จัดการข้อมูลในรูปแบบของ State props และใช้วิธี lifecycle ต่างๆ เช่น componentDidMount และอื่นๆ อีกมากมาย
เมื่อแอปพลิเคชันมีขนาดและขอบเขตใหญ่ขึ้น การจัดการข้อมูลที่แชร์กันก็จะ ยากขึ้นด้วย ซึ่ง Redux จะถูกกำหนดให้เป็น "Container state ที่สามารถคาดการณ์ได้สำหรับแอป JavaScript" ที่ช่วยให้มั่นใจว่าแอปของคุณทำงานได้อย่างมีทิศทาง และทดสอบได้ง่ายขึ้น
ในขณะที่คุณสามารถใช้ Redux กับวิวไลบรารี่ใดๆ ก็ตาม พวกเราได้แนะนำ Redux ที่นี่ก่อนที่จะรวมเข้ากับ React ในชุดหลักสูตรถัดไป
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้พื้นฐานของการกักเก็บ(store) การดำเนินการ รีดิวเซอร์ และมิดเดิลแวร์ของ Redux เพื่อจัดการข้อมูลทั้งแอปพลิเคชันของคุณ
React และ Redux มักจะพูดถึงร่วมกันและด้วยเหตุผลที่ดี นักพัฒนาที่สร้าง Redux ก็เป็นนักพัฒนา React ที่ต้องการทำให้การแบ่งปันข้อมูลใน component ต่างๆ ง่ายขึ้น
ถึงตอนนี้ คุณรู้วิธีการจัดการการไหลของข้อมูลที่แชร์กับ Redux แล้ว ก็ถึงเวลานำความรู้นั้นกับ React ในหลักสูตร React และ Redux ของคุณมาสร้าง React components และเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีจัดการกับ stage ในส่วนของ component ตลอดทั้งแอปพลิเคชันด้วย Redux
ถึงเวลาแล้ว ที่จะลองนำทักษะความรู้ด้าน Front-end development และไลบราลี่ของคุณ ใช้ Bootstrap, jQuery, Sass, React และ Redux นี้ทำโปรเจคทั้ง 5 โปรเจคนี้ เพื่อที่จะทดสอบสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้
ทำโปรเจคทั้ง 5 โปรเจคให้สำเร็จ เพื่อรับใบประกาศไปรษณียบัตรด้าน Front End Development Libraries