เนื่องจากโปรแกรมหรือเว็บแอปพลิเคชันของคุณนั้นมีความซับซ้อนที่มากขึ้น คุณจะต้องทำการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการปรับเปลี่ยนใหม่นั้นจะไม่ทำให้ฟังก์ชันการทำงานเดิมเสียหาย
ในการรับรองการประกันคุณภาพ(Quality Assurance) คุณจะได้เรียนรู้วิธีเขียนโค้ดการทดสอบกับ Chai เพื่อรับรองให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันของคุณทำงานตามแบบที่คุณคิดไว้
หลังจากนั้น คุณจะต้องสร้างแอปพลิเคชันแชทเพื่อเรียนรู้แนวคิดขั้นสูงของ Node และ Express นอกจากนี้ คุณยังต้องใช้ Pug เป็นเอ็นจิ้นเทมเพลต(Template engine) อีกรวมถึงใช้ Passport เพื่อทำการตรวจสอบสิทธิ์ และ Socket.io สำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างเซิร์ฟเวอร์และไคลเอ็นต์ที่เชื่อมต่อ
Chai คือไลบรารีทดสอบของ JavaScript ที่ช่วยทำให้ยืนยันได้ว่าโปรแกรมสามารถทำงานตามที่คุณคาดหวังได้หลังจากที่คุณทำการปรับเปลี่ยนโค้ดแล้ว
การใช้ Chai คุณสามารถเขียนโค้ดการทดสอบที่อธิบายข้อกำหนดของโปรแกรมของคุณและดูว่าโปรแกรมของคุณตรงตามข้อกำหนดได้หรือไม่
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการยืนยัน(assertion) ความเท่าเทียมกันแบบลึก(Deep equality) ความจริง(Truthiness) การทดสอบ API และพื้นฐานอื่นๆ สำหรับการทดสอบแอปพลิเคชันใน JavaScript
ถึงเวลาเจาะลึกเกี่ยวกับ Node.js และ Express.js ด้วยการสร้างแอปพลิเคชันแชทด้วยระบบลงชื่อเข้าใช้ (sign-in system)
ในการใช้ระบบลงชื่อเข้าใช้ (sign-in system) อย่างปลอดภัย คุณจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการรับรองความถูกต้อง รวมถึงการตรวจสอบตัวตนของบุคคลหรือกระบวนการด้วย
ในหลักสูตรนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้ Passport เพื่อจัดการการพิสูจน์ตัวตน และการใช้ Pug เพื่อสร้างเทมเพลตที่ใช้ซ้ำกันได้ ในส่วนการสร้าง Front-end แบบรวดเร็ว หรือ Web sockets สำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างฝั่งไคลเอนต์กับฝั่งเซิร์ฟเวอร์
เมื่อคุณมีความรู้และมีความเชี่ยวชาญทางด้าน Front-end และ Back-end แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะใช้ทักษะและแนวคิดเหล่านี้มาใช้ทำงานจริงๆ โดยคุณจะต้องสร้างเว็บแอปพลิเคชันที่แตกต่างกันทั้งหมด 5 แบบ และทำการทดสอบสำหรับแต่ละเว็บแอปพลิเคชัน เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้และสามารถจัดการกับเคสกรณีต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
หลังจากเสร็จสิ้นการทำ Quality Assurance เหล่านี้แล้ว คุณก็จะได้มีโปรเจคอีก 5 โปรเจคและใบประกาศนียบัตรใหม่ เพื่อเป็นการรับรองและสามารถนำโปรเจคที่คุณสร้างนำเข้า Portfolio ของคุณอีกด้วย